Hashish หรือ hash (ยางกัญชา) เป็นสารเข้มข้นที่ผลิตขึ้นโดยการกดหรือถูต่อมเรซินของต้นกัญชา จึงทำให้มันเกิดเป็นยาง แม้ว่าแฮชจะได้รับความนิยมในปัจจุบัน แต่ก็มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและน่าสนใจ ถ้าคุณชอบเรื่องราวของประวัติศาสตร์กัญชา ไม่ควรพลาดบทความนี้ด้วยประการใดทั้งปวง
ภาพโดย: Gina Coleman/Weedmaps
Hashish หรือ hash เป็นสารเข้มข้นที่ผลิตขึ้นโดยการกดหรือถูต่อมเรซินของต้นกัญชาเข้าด้วยกัน นิยมปั้นให้เป็นก้อนๆ
จุดเริ่มต้นของการใช้ Hashish หรือ hash (ยางกัญชา)
ประวัติการใช้กัญชาเพื่อคุณสมบัติในการระงับความรู้สึกสามารถสืบย้อนไปถึงยุคหินใหม่ ประมาณ 4000 ปีก่อนคริสตศักราช การใช้แฮชเริ่มขึ้นในเวลาต่อมาเล็กน้อยในเปอร์เซีย (ส่วนใหญ่เป็นอิหร่าน) และเอเชียกลาง (อัฟกานิสถาน ทาจิกิสถาน เติร์กเมนิสถาน และอุซเบกิสถาน) มีแนวโน้มว่ากัญชาจะเดินทางบนเส้นทางสายไหมจากเอเชียตะวันออกไปยังตะวันออกกลาง ในช่วงต้นมีถูกใช้เป็นเครื่องหอม เครื่องหอมแบบเดียวกับที่ผลิตด้วยกำยาน และมดยอบนั้นมีค่ามากในสมัยโบราณ สารเหล่านี้เป็นเรซินที่ใช้เป็นยา และใช้ในพิธีทางศาสนามานานหลายศตวรรษ
Charas หรือเรซินที่ผลิตขึ้นโดยการถูเบา ๆ บนพืชกัญชาที่กำลังเติบโต แต่เมื่อการเกษตรเกิดขึ้น ราว 9000 ปีก่อนคริสตศักราชในอินเดีย ตะแกรงแบบทอได้รับการพัฒนาเพื่อแยกเมล็ดพืชออกจากกัญชาได้ Frenchy Cannolli นักวิชาการด้านกัญชาที่มีชื่อเสียงกล่าวว่าตะแกรงเดียวกันนี้ใช้เพื่อแยกเรซินกัญชาออกจากส่วนที่เหลือของพืชที่เก็บเกี่ยว และแห้ง ส่วนใหญ่ในอินเดีย จะใช้ถูกัญชาสดๆเลย
Hashish หรือ hash (ยางกัญชา) ในโลกยุคโบราณ
หนึ่งในการกล่าวถึงกัญชาที่เก่าแก่ที่สุดคือหนังสือเรื่องพิษของนักเล่นแร่แปรธาตุชาวอิรัก Ibn Wahshiyya ซึ่งเขียนขึ้นในศตวรรษที่ 10 นอกจากนี้ยังมีตำรามุสลิมจากศตวรรษที่ 11 ที่ผู้นำทางศาสนาและฆราวาสได้เล่าถึงประโยชน์ของมัน หลังจากนั้นไม่นาน เรื่องราวของการใช้กัญชาก็รวมอยู่ในหนังสือ Arabian Nights แฮชเป็นที่รู้จัก และนำไปใช้ จากนั้นอิหร่านและทั่วทั้งคาบสมุทรอาหรับก็หันมาใช้ Hashish หรือ hash (ยางกัญชา) แม้ว่าคนในท้องถิ่นจะเคยกล่าวว่าที่ชาวมองโกลนำกัญชามาเผยแผ่สู่ภูมิภาค
จากนั้นก็มีตำนานทางประวัติศาสตร์ของ Nizari Ismailis หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า Order of Assassins หรือ Hashishin Assassins Assassins ซึ่งมีฐานที่มั่นในเปอร์เซีย และซีเรียเป็นนิกายทางศาสนาที่ก่อตั้งขึ้นในปลายศตวรรษที่ 11 ประมาณ 1,090 CE ชื่อ Assassins คือ “Hashâshīn” ในภาษาเปอร์เซียและ “asasasīn” ในภาษาอาหรับ
ตำนานมีอยู่ว่าผู้ก่อตั้งกลุ่ม Hassan-e Sabbāh (สะกดว่า Hasan-i Sabbah) สูบกัญชา และมอบให้กับสาวกของเขาเพื่อปลูกฝังความภักดีต่อกลุ่ม นักวิชาการอภิปรายถึงความถูกต้องของนิทานเหล่านี้ โดยอ้างว่าคำว่า “ฮาชิชิน” เป็นการเรียกชื่อผิด กล่าวกันว่าฮัสซัน-เอ ซับบาห์เรียกผู้ติดตามของเขาว่า “อาซาซียุน” ซึ่งแปลว่า “คนที่สัตย์ซื่อต่อรากฐาน [แห่งศรัทธา]”
เชื่อกันว่านิกายนี้ถูกเรียกเพี้ยนไปว่า “ฮาชิชิน” ในความหมายภาษาอาหรับ ซึ่งหมายความว่า “ผู้ใช้แฮช” ว่ากันว่า นักลอบสังหารใช้แฮชในการปลิดชีวิตนิกายคู่แข่ง แต่คำกล่าวพวกนี้ก็เป็นเพียงเรื่องเล่าเท่านั้น
แม้ว่าจะไม่มีบันทึกทางโบราณคดีหรือลายลักษณ์อักษรใดให้หลักฐานที่ชัดเจนว่าเหล่ามือสังหารใช้แฮชเป็นส่วนหนึ่งของประเพณีของพวกเขาหรือไม่ แต่ตำนานดังกล่าวก็เขียนขึ้นราวปี ค.ศ. 1210 โดย Arnold of Lübeck เอกสารทางประวัติศาสตร์ของตำนานนี้ในต้นศตวรรษที่ 13 เชื่อมโยงพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ของเปอร์เซียกับกัญชา รวมถึงการให้คำอธิบายเกี่ยวกับความเข้มข้นของกัญชา และความมึนเมาของมัน
ในขณะเดียวกัน ในปี ค.ศ. 1206 เจงกีสข่านได้รวมชนเผ่ามองโกล และย้ายจากรัสเซียไปยังเปอร์เซียและเอเชียกลาง โดยนำกัญชา และแฮชมาใช้กับพวกเขา
ในศตวรรษเดียวกัน Ibn al-Bayṭar นักวิทยาศาสตร์ที่เกิดในจังหวัด Málaga ประเทศสเปน ในปัจจุบัน บรรยายถึงสารที่ทำให้มึนเมาจากอียิปต์ที่เขาเรียกว่า “hashishah” ศตวรรษต่อมา ในปี ค.ศ. 1378 CE ประกาศต่อสาธารณชนว่าการสูบกัญชาเป็นสิ่งต้องห้ามโดย Soudoun Sheikhuni ประมุขเติร์กในอียิปต์ ในคำสั่งของเขา เขาเรียกร้องให้มีการทำลายต้นกัญชาทั้งหมด และลงโทษผู้ใดก็ตามที่ใช้กัญชาโดยการจำคุกและถอนกัญชาทิ้งให้หมด
การใช้แฮชยังคงได้รับความนิยมในอียิปต์จนถึงสิ้นสุดยุคกลาง และตลอดเวลาที่เป็นฝ่ายปกครองของจักรวรรดิออตโตมัน แม้จะมีนโยบายห้ามปราม และการลงโทษที่รุนแรงโดยทางการก็ตาม
เมื่อไปถึงอียิปต์ การแพร่กระจายยังคงดำเนินต่อไป กล่าวกันว่าชนเผ่าเบอร์เบอร์จากแอฟริกาเหนือได้นำกัญชามาสู่โมร็อกโก และการผลิตแฮชไม่ได้เริ่มต้นในประเทศมาระยะหนึ่งแล้ว
แฮชในยุคปัจจุบัน
การบริโภคกัญชายังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และวิธีการบริโภคหลักเปลี่ยนจากการรับประทานเป็นการสูบเมื่อยาสูบมาถึงในช่วงทศวรรษที่ 1500 ในช่วงศตวรรษที่ 18 และ 19 การเปลี่ยนแปลงวิธีการผลิตช่วยเพิ่มผลผลิต และการกระจายเมื่อความต้องการแฮชเพิ่มขึ้น
ในปี ค.ศ. 1798 ระหว่างการยึดครองอียิปต์ของฝรั่งเศส นายพลจัตวา นโปเลียน โบนาปาร์ต ออกกฎหมายห้ามการบริโภคกัญชา และกัญชง โดยออกคำสั่งให้มีห้ามมีการสูบกัญชาในที่สาธารณะ เขาเชื่อว่าการใช้กัญชา และกัญชงส่งผลให้เกิดการรบกวนจิตใจ สับสน และทำให้เป็นบ้า แม้จะมีความพยายามของโบนาปาร์ต แต่กองทหารฝรั่งเศสของเขาจาก Armée d’Orient รวมถึงกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ วิศวกร และศิลปินจาก Commission des Sciences et des Arts ได้นำกัญชากลับไปฝรั่งเศสหลังจากรับใช้ในอียิปต์ก็ตาม
Le Club des Hashischins – ก่อตั้งขึ้นในปารีสในปี พ.ศ. 2386 กลุ่มได้จัดประชุมทุกเดือนที่Hôtel Pimodan ซึ่งทันสมัย - วันHôtel de Lauzun เพื่อทดลองและสำรวจความมึนเมาของแฮช เนื่องจากมีความสนใจในหมู่สังคมคนใช้กัญชาเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่มันสามารถเพิ่มระดับศิลปะ และความเฉลียวฉลาดของพวกเขาได้ ผู้เข้าร่วมหลายคนเป็นส่วนหนึ่งของปัญญาชนชาวปารีส รวมทั้งนักเขียนที่มีชื่อเสียง (Alexandre Dumas, Théophile Gautier, Victor Hugo, Honoré de Balzac), จิตรกร (Eugène Delacroix) และสมาชิกคนอื่น ๆ ของชนชั้นสูงทางปัญญาของปารีส
Dr. Jacques-Joseph Moreau แพทย์ด้านจิตเวช เป็นสมาชิกที่มีชื่อเสียงอีกคนหนึ่งของสโมสร ซึ่งเขียนสิ่งพิมพ์ครั้งแรกโดยแพทย์เกี่ยวกับผลกระทบของยาต่อระบบประสาทของมนุษย์ เขาต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับการรักษาความเจ็บป่วยทางจิต และเขาก็ได้รับความรู้โดยตรงมากมายเกี่ยวกับแฮชจากการทดลองด้วยตนเอง หนังสือของเขาชื่อ Du Hachisch et de L’aliénation Mentale — Études Psychologiques (Hashish and Mental Illness — Psychological Studies) ตีพิมพ์ในปี 1845 และได้รับการยกย่องอย่างมากจากสถาบัน French Academy of Sciences ในปี 1946 งานวิจัยนี้ช่วยพิสูจน์และทำให้กัญชาถูกกฎหมาย สนับสนุนความเป็นไปได้ในการรักษาพยาบาลในชุมชนวิทยาศาสตร์
เริ่มตั้งแต่กลางทศวรรษ 1950 พวกฮิปปี้จากประเทศตะวันตกเริ่มเดินทางจากสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี และอิตาลี ผ่านเอเชียกลางไปยังอินเดีย และประเทศไทยบนเส้นทางที่เรียกว่าฮิปปี้เทรลหรือโอเวอร์แลนด์ กัญชาคือยาที่ถูกกฎหมายที่ง่าย ราคาไม่แพง และสามารถหาได้ตลอดทาง ในยุค 60 การผลิตกัญชาของโมร็อกโกก็เริ่มต้นขึ้นจริงๆจัง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพวกฮิปปี้เหล่านี้
สรุป
ประวัติแฮชค่อนข้างจะครุมเรือซักหน่อย บางแหล่งข่าวกล่าวว่าวัฒนธรรมการผลิตกัญชาแบบต่อเนื่องที่เก่าแก่ที่สุดสามารถพบได้ในอัฟกานิสถาน ซึ่งเป็นผู้ผลิตกัญชาชั้นนำรายใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน การทำแฮชยังคงเกิดขึ้นในอินเดีย เนปาล และพื้นที่อื่นๆ ที่เกิด โมร็อกโก และสเปน แต่แคลิฟอร์เนียและส่วนอื่น ๆ ของสหรัฐอเมริกาก็พบได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นที่มาที่ไปจริงๆก็ยังจับทางอยู่ยาก ในขณะที่กฎหมายกัญชาได้แพร่กระจายออกไป การเพาะปลูกและความสนใจในการผลิตHashish หรือ hash (ยางกัญชา) ก็มีมากขึ้นไม่ต่างกัน
เป็นยังไงกันบ้างครับเพื่อนๆสำหรับเรื่องราวของ Hashish หรือ hash (ยางกัญชา)ที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ จะหวังว่ามีประโยชน์สำหรับเพื่อนๆไม่มากก็น้อยนะครับ หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมาใน ณ ที่นี้ด้วยนะครับส่วนบทความหน้าเราจะพาเพื่อนๆไปท่องโลกกัญชาเรื่องใดกันอีกไม่ควรพาติดตามชมกันต่อไปนะครับ วันนี้ต้องลาไปก่อน สวัสดีครับ
เครดิต : https://weedmaps.com/